วันอาทิตย์ที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2561

ข่าวเคมี(3)

12 สารเคมีในบ้านที่เราควรหลีกเลี่ยง


     ผลิตภัณฑ์ต่างๆที่เราใช้อยู่ในครัวเรือนมีส่วนผสมของสารเคมี ซึ่งก่อให้เกิดผลร้ายต่อสุขภาพ องค์การอนามัยโลกบอกว่า สารเคมีเหล่านี้ ก่อให้เกิดผลกระทบต่อผู้คน ส่งผลต่อการเจริญพันธุ์ และยังมีส่วนเกี่ยวข้องกับโรคเรื้อรังต่าง ๆ ที่เกิดกับคนในโลก
     Thomas Zoeller ผู้เชี่ยวชาญด้านชีววิทยาจากมหาวิทยาลัยแมซซาชูเสท บอกว่า แม้เราจะยังไม่สามารถพิสูจน์ได้อย่างชัดเจนว่า สารเคมีต่างๆ ที่เราใช้ในชีวิตประจำวันไปขัดขวางการทำงานของต่อมไร้ท่อ แต่เราก็ไม่สามารถปฏิเสธว่าสารเคมีส่งผลกระทบต่อการทำงานของร่างกาย
     มีรายงานว่า ทุกวันนี้มีสารเคมีราว ๆ 80,000 ชนิด ที่ถูกนำมาใช้กับผลิตภัณฑ์ที่เราใช้กับอยู่ในชีวิตประจำวัน และสารเคมีประมาณ 1,300 ชนิด ก็ถูกพิจารณาว่าขัดขวางการทำงานของต่อมไร้ท่อ และสารเคมี 12 ชนิดต่อไปนี้ นับว่าเลวร้ายมากที่สุด ซึ่งเราควรจะต้องหลีกเลี่ยง
     1.Bisphenol A หรือ BPAเป็นสารที่พบในบรรจุภัณฑ์พลาสติก ในปี 1930 มีการใช้เพื่อสังเคราะห์เอสโตรเจนให้กับผู้หญิง ดังนั้นแน่นอนว่า สารเคมีดังกล่าวมีผลต่อฮอร์โมน มีการศึกษาพบว่า มันทำหน้าที่เหมือนเอสโตรเจน ทำให้การผลิตเสปิร์มของผู้ชายลดลง ทำให้เด็กหญิงแตกวัยสาวเร็วกว่ากำหนด และส่งผลกระทบต่อภาวะการเจริญภัณฑ์ของทั้งชายและหญิง เราจะพบสาร BPA ในอาหารกระป๋อง ผลิตภัณฑ์พลาสติก สารเคลือบใบเสร็จ
     2.Dioxins หรือไดอ๊อกซิน เป็นสารประกอบทางเคมีที่เป็นสาเหตุของการเกิดโรคมะเร็ง และมีผลกระทบต่อฮอร์โมน ลดภาวะการเจริญพันธุ์ ทำให้เกิดโรคเบาหวาน โรคเยื่อบุโพรงมดลูก มีปัญหาระบบภูมิคุ้มกัน ฯลฯ สารเคมีนี้เกิดจากการเผาขยะในปริมาณมาก และปนเข้าไปอยู่ในกระดาษ เยื่อไม้ อากาศ และน้ำ จากนั้นก็ไปก่อตัวอยู่นำไขมันของสัตว์ การที่จะลดปริมาณการรับสารพิษนี้ก็คือ การเลือกรับประทานอาหารที่มีไขมัน และนมเนยให้น้อยลง 
     3.Atrazine หรืออาทราซิน สารนี้เคยมีการวิจัยพบว่ามีผลกระทบต่อฮอร์โมนของปลาและกบ ทำให้ปลาและกบเพศผู้มีความเป็นเพศเมีย ส่วนในมนุษย์พบว่าสารดังกล่าวเพิ่มการทำงานของยีนที่เกี่ยวกับการเจริญพันธุ์ สารชนิดนี้นำมาใช้กำจัดศัตรูพืช วิธีการหลีกเลี่ยงสารพวกนี้ก็คือ การเลือกบริโภคผัก ผลไม้ จากฟาร์มออร์แกนิค และลดปริมาณการรับประทานเนื้อ 
     4.Phthalates หรือพาทาเล็ท สารนี้เคยมีการนำมาศึกษา พบว่า เด็กชายที่เกิดจากมารดาที่มีสารพาทาเล็ทมาก จะมีความผิดปกติที่อวัยวะเพศ สารเคมีดังกล่าวไปรบกวนฮอร์โมนเทสทอสเทอโรน ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ทำให้มีการพัฒนาของหน้าอก นอกจากนี้ ยังพบว่าผู้หญิงที่เป็นมะเร็งเต้านม มีระดับสารชนิดนี้สูงกว่าหญิงที่ไม่เป็น สารพาทาเล็ทพบได้มากในผลิตภัณฑ์ที่เราใช้ ทั้งพื้นบ้าน ม่านห้องน้ำ หนังสังเคราะห์ และผลิตภัณฑ์พวก PVC ไวนิล สารพาทาเล็ททำให้พลาสติกมีความยืดหยุ่น และยังเป็นสารที่นำไปใช้ในผลิตภัณฑ์จำพวกสี เช่น ยาทาเล็บ 
     5.Perchlorate หรือพอร์เชอเรต เป็นสารที่รบกวนการทำงานของไทรอยด์ ส่งผลต่อฮอร์โมนและการเผาผลาญอาหารของร่างกาย สารนี้เป็นส่วนประกอบของเชื้อเพลิงจรวด ขีปนาวุธ ดอกไม้ไฟ รวมทั้งแบตเตอรี่ สารนี้จะปนเปื้อนอยู่ในดินและน้ำใต้ดิน และไม่มีใครทราบว่า เมื่อไหร่ที่สารเคมีนี้จะสลายตัวไป 
     6.Flame retardants หรือสารหน่วงการติดไฟ ส่งผลกระทบต่อไทรอยด์ และการเจริญพันธุ์ของเพศหญิง และมีผลกระทบต่อระดับไอคิวของเด็ก สารชนิดนี้พบได้ในเฟอร์นิเจอร์ พรม รวมทั้งผลิตภัณฑ์ที่นำมาใช้กับเด็ก สารนี้มีอยู่ในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิคส์ วิธีการหลีกเลี่ยงก็คือ ดูดฝุ่น ทำความสะอาดบ่อย ๆ พยายามลดการแพร่กระจายของมัน เพราะสารนี้จะออกมาจากฝุ่นในเฟอร์นิเจอร์ พรมปูพื้นรถ และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่มีการชำรุด
      7.Lead หรือสารตะกั่ว มีการวิจัยพบว่าอันตรายจากสารตะกั่วนั้นเพิ่มมากขึ้น ส่งผลกระทบต่อฮอร์โมนและความเครียดของคนเรา สารตะกั่วนั้นเป็นโลหะพิษที่ปนเปื้อนอยู่ทั้งในน้ำดื่มที่ไหลผ่านท่อน้ำเก่า และน้ำในแทงก์น้ำ ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่าควรเลือกรับประทานอาหารที่มีคุณค่า ซึ่งดูดซับสารตะกั่วไว้ในปริมาณน้อย และบ้านเรือนที่อยู่อาศัยนั้น หากเป็นบ้านเก่า ควรได้รับการปรับปรุงอุปกรณ์เครื่องใช้ เพื่อการอุปโภคและบริโภค
     8.Arsenic หรือสารหนู เป็นสารก่อมะเร็ง และก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกายได้อีกหลายอย่าง รวมทั้งทำให้เกิดปัญหากับต่อมไร้ท่อ และระบบภูมิคุ้มกันโรค สารหนูมีอยู่ทั้งในน้ำและอาหาร เนื้อสัตว์ และผลไม้ที่อยู่ในฟาร์ม ซึ่งไม่มีคุณภาพ ดังนั้น แนวทางในการหลีกเลี่ยงก็คือ กรองน้ำผ่านระบบการกรองที่ได้มาตราฐาน เลือกรับประทานอาหารจากแหล่งผลิตที่มีคุณภาพ หรืออาหารออแกนนิค
     9.Mercury หรือสารปรอท ส่งผลกระทบต่อไอคิวของเด็ก อีกทั้งยังส่งผลต่อฮอร์โมน การมีประจำเดือนและการตกไข่ของผู้หญิง สารปรอทนี้ทำลายเซลล์ที่ผลิตอินซูลิน ซึ่งมีผลต่อระดับน้ำตาลในเลือด สารนี้พบในอาหารทะเล เพราะสามารถปนเปื้อนอยู่ในสภาพแวดล้อมที่อยู่ใกล้กับแหล่งอุตสาหกรรม สามารถหลีกเลี่ยงได้ด้วยการเลือกรับประทานอาหารทะเลที่มีปริมาณสารปรอทต่ำ ซึ่งโดยทั่ว ๆ ไปแล้วปลาเล็กๆ จะมีการปนเปื้อนน้อย
     10.Perfluorinated chemicals สารเปอร์ฟลูออโรเนท หรือ PFCs มีผลกระทบต่อการทำงานของไทรอยด์ และมีความเกี่ยวข้องกับการเป็นไฮเปอร์ไทรอยด์ มีผลต่อภาวะการเจริญพันธุ์ของทั้งชายและหญิง เราพบสารชนิดนี้ในหม้อ กระทะที่มีการเคลือบสารกันการเกาะติด รวมทั้งยังมีอยู่ในเสื้อผ้า ผ้าหุ้มเบาะ พรม กระเป๋าเป้ และพวกผลิตภัณฑ์ป้องกันน้ำ ป้องกันคราบสกปรกต่าง ๆ รวมทั้งยังพบในกล่องพิซซ่า ห่ออาหาร ถุงป๊อบคอร์นแบบไมโครเวฟ ถุงอาหารสัตว์ เราสามารถหลีกเลี่ยงสารดังกล่าวได้ด้วยการไม่ใช้ผลิตภัณฑ์พวก กอร์เท็ค ป้องกันคราบ และเทฟล่อน 
     11.Organophosphate pesticides หรือยากำจัดแมลงพวกฟอสเฟต สารพวกนี้ทำให้ระดับเทสทอสเทอโรน และฮอร์โมนเพศต่ำลง หากได้รับสารนี้ระหว่างการตั้งครรภ์ ก็มีความเสี่ยงต่อการแท้งลูก และมีผลต่อพัฒนาการของทารกในครรภ์ เราพบว่ามีสารพวกนี้ในยาฆ่าแมลง ดังนั้นการหลีกเลี่ยงก็คือ การเลือกอาหารจากฟาร์มออร์แกนิค
     12.Glycol ethers หรือไกลคอล อีเทอร์ มีผลกระทบต่อฮอร์โมน ทำให้สเปิร์มของเพศชายด้อยคุณภาพ สารพวกนี้ใช้มากในวงการอุตสาหกรรม รวมทั้งพวกบริการซักแห้ง และผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด วิธีการหลีกเลี่ยงก็คือ ผ้าที่มีความบอบบาง ให้ซักด้วยมือแทนการซักแห้ง และทำผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่เป็นมิตรต่อสภาพแวดล้อมใช้เองที่บ้าน
ที่มา:https://www.sanook.com/home/13749/

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น