สูตรโครงสร้างแบบจุด เป็นการเขียนเฉพาะอิเล็กตรอนในชั้นพลังงานนอกสุดหรือเวเลนซ์อิเล็กตรอนของแต่ละธาตุ โดยใช้จุดแทนอิเล็กตรอน 1 ตัว และใช้จุด 2 จุดแทนอิเล็กตรอนคู่ร่วมพันธะหรือเส้นก็ได้ เราอาจเรียกโครงสร้างแบบจุดนี้ว่า โครงสร้างลิวอิส
     ธาตุต่างๆส่วนใหญ่ไม่เสถียรในรูปอะตอมเดี่ยวยกเว้นธาตุในหมู่ 18 หรือเรียกว่าแก๊สมีสกุลที่พบอยู่ในรูปอะตอมเดี่ยว ซึ่งมีจำนวนเวเลนซ์อิเล็กตรอนเท่ากับ 8 ยกเว้นฮีเลียมซึ่งมี 2 เวเลนซ์อิเล็กตรอน นอกจากนี้นักเคมียังพบว่าอะตอมของธาตุอื่นๆมีแนวโน้มที่จะรวมตัวกัน เพื่อที่จะทำให้แต่ละอะตอมมีเวเลนซ์อิเล็กตรอนเท่ากับ 8 จึงมีการสรุปเป็นหลักการที่เกี่ยวกับกฎออกเตต
3.2 พันธะไอออกนิก
- การเกิดพันธะไอออนิก
 

     สารประกอบไอออนิกในสถานะของแข็งอยู่ในรูปของผลึกที่มีไอออนบวกและลบยึดเหนี่ยวกันด้วยพันธะไอออนิกอย่างต่อเนื่องทั้งสามมิติเป็นโครงผลึก และไม่อยู่ในรูปโมเลกุล
- สูตรเคมีและชื่อของสารประกอบไอออนิก
 

     ธาตุโลหะบางชนิดเกิดเป็นไอออนบวกที่มีประจุได้หลายค่า โดยเฉพาะธาตุโลหะแทรนซิชัน เช่น Cu สามารถเกิดเป็นไอออนบวกที่มีประจุ +1 และ +2 ค่าที่แสดงประจุไฟฟ้าหรือประจุไฟฟ้าสมมติของไอออนหรืออะตอมของธาตุ เรียกว่า เลขออกซิเดชัน 
- พลังงานกับการเกิดสารประกอบไอออนิก
 
     พลังงานโครงผลึก คือ พลังงานที่เกี่ยวข้องกับการรวมตัวกันของไอออนบวกและลบในสารประกอบไอออนิก ซึ่งในทางปฏิบัติไม่สามารถนำไอออนบวกและลบที่บริสุทธิ์มาทำปฏิกิริยากันได้ จึงเกิดขั้นตอนย่อยหลายขั้นตอนตามวัฏจักรบอร์น-ฮาเบอร์
- สมบัติของสารประกอบไอออนิก
 
     -สารประกอบไอออนิกสถานะของแข็งไม่นำไฟฟ้า แต่เมื่อหลอมเหลวหรือละลายยในน้ำจะนำไฟฟ้าได้ดี
     -มีจุดหลอมเหลวและจุดเดือดสูง ส่วนใหญ่ละลายน้ำได้
- สมการไอออนิกและสมการไอออนิกสุทธิ
 
     ไอออนในสมการของปฏิกิริยาที่มีน้ำเป็นตัวทำละลายแสดงสถานะไอออนเป็น aq ซึ่งมาจากคำว่า a queous solution เนื่องจากในสมการไอออนิกมีไอออนที่ไม่ทำปฏิกิริยาการปรากฏอยู่ทางด้านซ้ายและด้านขวาของสมการที่สามารถตัดออกจากสมการให้เหลือเฉพาะไอออนที่ทำปฏิกิริยากันได้เป็นผลิตภัณฑ์เรียกว่า สมการไอออนสุทธิ
     สารประกอบที่ละลายน้ำ
-สารประกอบของโลหะแอลคาไลและแอมโมเนียทุกชนิด 
-สารประกอบไนเทรต คลอเรต เปอร์คลอเรต แอซีเตต
-สารประกอบคลอไรด์ โบรไมด์ ไอโอไดด์
-สารประกอบคอร์บอเนต ฟอสเฟต ซัลไฟด์ และซัลไฟต์
-สารประกอบซัลเฟต 
     สารประกอบที่ไม่ละลายน้ำ
-สารประกอบออกไซด์ของโลหะ
-สารประกอบไฮดรอกไซด์
3.3 พันธะโคเวเลนต์
- การเกิดพันธะโคเวเลนต์
 
- สูตรโมเลกุลและชื่อของสารโคเวเลนต์
 
        1.สารโคเวเลนต์ที่ประกอบด้วยธาตุชนิดเดียวกันเรียกตามชื่อธาตุนั้น ซึ่งธาตุเหล่านี้ส่วนใหญ่มีสถานะเป็นแก๊สที่อุณหภูมิห้อง จึงนิยมเรียกชื่อโดยระบุสถานะด้วยเพื่อให้ทราบว่าเป็นการกล่าวถึงโมเลกุลที่ไม่ใช่อะตอมของธาตุ
      2.สารโคเวเลนต์ที่ประกอบด้วยธาตุ 2 ชนิดให้เรียกชื่อธาตุตามลำดับที่ปรากฏในสูตรโมเลกุลโดยเปลี่ยนพยางค์ท้ายเป็น -ide และระบุจำนวนอะตอมธาตุองค์ประกอบในโมเลกุลด้วยคำภาษากรีก
- สภาพขั้วของโมเลกุลโคเวเลนต์
 
- แรงยึดเหนี่ยวระหว่างโมเลกุลและสมบัติของสารโคเวเลนต์
 
3.4 พันธะโลหะ
- การเกิดพันธะโลหะ
 
- สมบัติของโลหะ
 
     -ผิวมันวาวและสะท้อนแสงได้
     -นำไฟฟ้าและความร้อนได้ดี
     -ตีให้แผ่ออกและดึงเป็นเส้นได้
3.5 การใช้ประโยชน์ของสารประกอบไอออนิก สารโคเวเลนต์ และโลหะ
     สารประกอบไอออนิก สารโคเวเลนต์ และโลหะ มีสมบัติเฉพาะตัวบางประการที่เหมือนกัน จึงนำมาใช้ประโยชน์ในด้านต่างๆตามความเหมาะสม เช่น
     -ทองแดง(Cu) และอะลูมิเนียม(Al) เป็นโลหะนำไฟฟ้าได้ดี โลหะทองแดงนำไฟฟ้าดีกว่าจึงใช้ในสายไฟฟ้าตามอาคารบ้านเรือน ส่วนโลหะอะลูมิเนียมซึ่งเบากว่าถึงแม้จะนำไฟฟ้าไม่ดีเท่าทองแดง แต่ก็เป็นทางเลือกหนึ่งในการนำไปใช้กรณีที่ต้องการลดค่าใช้จ่ายและน้ำหนักของวัสดุ
ที่มา:หนังสือเรียนรายวิชาเพิ่มเติมวิทยาศาสตร์ เคมี เล่ม1 โดยสสวท.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น